เรียวปากอิ่มที่ใครๆก็หมายปองของเขาบดขยี้ลงมา รุนแรง แม้ผมจะไม่ได้ขัดขืนก็ตาม ปลายลิ้นอุ่นชื้นดันผ่านเข้ามาเกี่ยวพัน สลับดูดดึงกับลิ้นผม เสียงครางค่อยๆหลุดออกมาเรื่อยๆจากทั้งผมและเขาเมื่อลิ้นของเรายังคงเกี่ยวรัดพันกันไปเรื่อยเหมือนคนไม่รู้จักอิ่มจักพอ

...คำว่าพอคืออะไร...ผมในตอนนี้คงตอบไม่ได้ และเขาเองก็เช่นกัน...

รสจูบที่หนักหน่วง เร่าร้อน สลับผ่อนจังหวะเบาบ้างอ่อนโยนขึ้นมาเสียเฉยๆบ้าง ทำเอาผมหัวหมุนนิดหน่อย มันอาจจะเป็นเพราะผมยังบริสุทธ์เกินไปสาหรับเรื่องแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไง และไม่รู้ว่าจะอธิบายให้ใครเข้าใจได้ยังไง สิ่งเดียวที่บอกได้คือ

...มันไม่พอ...

ผมแอ่นตัวเบียดเข้าหาจนชิดเมื่อวงแขนแข็งแรงนั่นกอดกระชับแน่นขึ้นอีก เสียงครางดังระงม ริมฝีปากที่ผ่านการจูบอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่องนานๆเริ่มบวมช้าและเจ็บ แต่นั่นไม่มากพอที่จะทาให้ผมหยุดที่จะตอบสนองเขาได้ 2แขนของผมที่เคยโอบรัดรอบขอเขาเปลี่ยนเป็นประคองใบหน้าของเขาให้แหงนขึ้นรับกับต่าแหน่งของผมแทน

“อื้อออ..”

ครางเสียงสูงเมื่อเขาใช้ฟันกัดและดึงปากล่างของผมอย่างหยอกๆ ขมวดคิ้วกับความรู้สึกเจ็บที่ได้รับ เขายิ้มอย่างพอใจก่อนจะกดจูบลงมาอีก ระลอกแล้วระลอกเล่า เรายังคงจูบกันต่อไปเรื่อยๆนานเท่าที่ต้องการ...

“ด..เดี๋ยวก่อนครับ..ไม่ทาตรงนี้”

ผมร้องบอกเสียงขาดห้วงหลังจากดันให้คนตัวโตตรงหน้าให้ยอมถอนจูบได้เป็นผลสาเร็จเมื่อมือของเขาเริ่มอยู่ไม่สุข

“ทาไมล่ะ ไม่มีใครมาหรอก พรุ่งนี้ไม่ต้องเข้าบริษัท ยังไงก็ตื่นสายกันอยู่แล้ว”
ริมฝีปากที่ดูเจ่อขึ้นไม่ต่างจากผมขยับบอกก่อนจะตามมากดลงที่ริมฝีปากผมอีกครั้งและผละออกมาอยู่ในระยะที่เรียกว่าคลอเครียก็คงไม่ผิด ริมฝีปากเราสัมผัสกันแค่เฉียดๆพอให้รู้สึกจั๊กจี้ สบตากันในระยะที่ใกล้กันจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ให้ความรู้สึกเซ็กส์ซี่บอกไม่ถูก

“ไม่มีอะไรรับประกันว่าพวกเขาจะไม่ตื่นขึ้นมานี่ครับ ผมกลัวนะ”

“ฮ่าๆๆ ก็ได้ๆ แต่เราจะไปที่ไหนกันล่ะ”
เขากระซิบเสียงพร่า

“ห..ห้องน้าห้องผมก็ได้”

“แล้วถ้าจงอินตื่นขึ้นมาล่ะ”

“พี่ก็รู้ว่าเขาจะไม่ตื่น..”

ถึงตรงนี้ผมหลุบตาต่าพลางเม้มปากล่างที่แข็งตึงเพราะผ่านการจูบมาอย่างหนักเข้าด้วยความเคยชิน เขาหัวเราะ
เราย้ายที่จากโซฟาในห้องนั่งเล่นที่เปิดโล่งไม่เป็นส่วนตัวไปที่ห้องน้าที่มิดชิดและให้ความรู้สึกปลอดภัยกว่าในห้องผมแทน จงอินยังคงหลับสนิทซึ่งก็ดีแล้ว ผมภาวนาให้เขาอย่าได้ตื่นขึ้นมาเลยตลอดคืนนี้

ประตูห้องน้ำปิดลงตามด้วยเสียงกดล็อค

..อา..นี่ผมเอาจริงใช่มั้ย?...
ผมยังคงถามตัวเองถึงแม้ว่าอะไรๆจะเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ตาม..

“มานี่ซิ”
เสียงต่แหบต่ำำเรียกให้ผมที่เลือกที่จะยืนชิดผนังห้องน้าเพราะไม่รู้จะไปยืนส่วนไหนให้เข้าไปหา ผมกลืนน้าลายอึกใหญ่ ความรู้สึกเขินอายกลับมาอีกครั้งและยิ่งมากกว่าเดิมเมื่อเหมือนว่าเราต้องเริ่มทุกอย่างใหม่ และทำทุกอย่างภายใต้แสงสว่างสีส้มอ่อนจากหลอดไฟนี่..

“หน้าแดงจังนะ”
มือใหญ่ที่เอื้อมมาสัมผัสลงบนผิวหน้ากำลังทำให้ทั้งสติทั้งอารมณ์ผมกระเจิดกระเจิง เขาเหยียดยิ้มอีกเมื่อองศาความร้อนบนผิวหน้าผมกาลังเพิ่มขึ้นอีก ผมก้มหน้าหลบสายตานั่น...สายตาที่อ่อนโยน สายตาที่บอกว่าผมสาคัญ...ถึงแม้จะแค่ตอนนี้....

“อย่าแซวซิ ผมก็เขินเป็นนะ”

“นายในเวลาแบบนี้ ฉันจะจามันไว้”
.

.

- นิ สั ย เ สี ย ข อ ง “ โด ค ย อ ง ซู ” –

.

เราเริ่มต้นกันจูบอีกครั้ง ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าผมเจ็บ จูบครั้งนี้จึงไม่รุนแรงและไม่ยื้ดเยื้อนัก สัมผัสจากริมฝีปากเขากดลงตรงหน้าผากผม เลื่อนลงมาตรงหว่างคิ้ว สันจมูก หยุดอยู่ที่ริมฝีปากครู่หนึ่ง และเคลื่อนต่ำลงไปยังลาคอ จูบซับไปเรื่อยจนแทบไม่เหลือที่ว่าง ขบกัด ดูดเม้มจนห้อเลือดเมื่ออยู่ในจุดที่ต่ำพอจะซ่อนได้ ผมตกใจที่เขาทำคิสมาร์คแต่ก็ช่างเถอะ...

ผมแทบจะลืมหายใจเมื่อเขาปล่อยร่างผม ดันชิดเข้ากับผนังห้องน้าอีกครั้ง มือใหญ่ที่เคยโอบรอบเอวผมกาลังเปลี่ยนมาลูบไล้ไปตามผิวเนื้อใต้เสื้อนอนแทน ร่างผมกระตุกเกร็งเล็กน้อยกับความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเพียงเพราะปลายนิ้วเขาสะกิดโดนบริเวณยอดอก เขาดูพอกับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญนั่น 2มือที่เคยล้วงเข้าใต้เสื้อค่อยๆถอยร่นออกมา กระดุมค่อยๆหลุดออกจากรังดุมทีละเม็ดๆจากบนลงล่างโดยมีสัมผัสชื้นจากริมฝีปากและปลายลิ้นของเขาลากจูบตามลงต่ำมาเรื่อยจนกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออก

“จูบฉันซิ”
เขาที่ตอนนี้อยู่ในสภาพยืนเข่าอยู่ตรงหน้าผมออกคาสั่ง ผมที่พยายามหลับตาเลือกที่จะไม่มองทุกการกระทำที่เขาทำต่อร่างการผมจึงต้องลืมตาขึ้นอย่างเสียไม่ได้ แม้จะอายแต่ผมก็ก้มลงจูบตามที่เขาร้องขอ อาจจะเพราะมีครูดี จูบครั้งที่2ที่ผมเป็นคนเริ่มนี้จึงไม่แย่เท่าไหร่ สองมือของเขาค่อยๆถอดเสื้อผมออกและถอนจูบหลังจากนั้น เหยียดยิ้มน้อยๆที่ผมเพิ่งจะมาเข้าใจเอาก็ตอนที่โดนของดึงลงจนไปนอนกองอยู่กับพื้นห้องน้าเรียบร้อยแล้ว กางเกงถูกดึงออกจากตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่มือของเขาจะครอบครองส่วนนั้นของผมที่ขยายตัวเต็มที่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ไว้ในมือ ผมครางหวิวเมื่อเขาแตะปลายนิ้วลงบนส่วนปลายที่เริ่มมีน้ำสีใสเหนียวหนืดซึมออกมา

“รู้สึกตั้งขนาดนี้แล้วนี่นา”
เขาแซวขณะที่มือก็ไม่ได้หยุดขยับ อีกครั้งที่ผมใช้2มือปิดปากเพราะไม่ต้องการให้เสียงเล็ดลอดออกมา เหตุผลแรกเพราะผมกลัวว่าจงอินจะตื่น เหตุผลที่2 ผมอาย..

“ร้องออกมาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก”
เขาบอกผมแบบนั้นพลางใช้มือข้างที่ว่างดึงมือผมออก ก้มลงจูบอยู่ครู่หนึ่ง ตาสีอ่อนของเขาจ้องมาที่ผมราวกับต้องการเห็นทุกอย่าง ทุกๆกิริยาอาการที่แสดงออกทางสีหน้าในยามมือข้างที่กอบกุมส่วนนั้นของผมไว้เริ่มและขยับขึ้นลงโดยใช้ของเหลวจากร่างกายของผมเองเป็นตัวหล่อลื่น ผมสบตาเขาสลับมองสิ่งที่มือเขาทำกับร่างกายผมเป็นระยะ กระตุกเกร็ง ครางไม่เป็นภาษา เมื่อเขายังคงทำมันอย่างต่อเนื่อง จากช้าๆก็ค่อยๆเร็วขึ้นเป็นลำดับ สะโพกบิดเร้า มือที่ไม่รู้จะวางไว้ที่ไหนตะกรุยลงบนพื้นกระเบื้องเมื่อความผิดปกติบางอย่างกาลังก่อตัวขึ้นจากภายในเพราะการระทำของคนด้านบน..

... มันน่าอายจริงๆกับการที่ต้องทำกับในที่ที่สว่างโร่เห็นกันหมดทุกอย่างแบบนี้...
ผมหลับตาลง เบื่อนหน้าหนีเมื่อถึงจุดที่ผมคิดว่ามันน่าอายเกินกว่าที่ผมจะทนมองได้

“อย่าหลับตานะ คยองซู..มองฉันซิ จำฉันไว้...”

ผมปลดปล่อยในมือเขาแทบจะในทันทีเพียงเพราะคำพูดนั้น...คำที่ว่า มองฉันซิ จำฉันไว้...เขาเก่ง แถมยังดูมีเสน่ห์ขึ้นจมในยามที่ทำเรื่องแบบนี้ ก้อนเนื้อที่อกซ้ายที่เรียกว่าหัวใจเต้นโครมครามอาจจะเพราะเหนื่อย หรือเหตุผลอื่นนอกเหมือนจากนั้น ผมไม่รู้และไม่กล้าที่จะคิด

...ความสุขทางเพศคงเป็นแบบนี้ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อสัมผัสและเป็นฝ่ายโดนสัมผัส กระทำและเป็นฝ่ายถูกกระทำ ผมพูดแบบนี้ได้เพราะตอนนี้...ผมมีความสุขมากจริงๆกับสิ่งที่เขาทำ แม้มันจะไม่มีเรื่องความความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง

...คุณไม่อาจปฏิเสธได้หรอกว่ามีความสุขในเมื่อร่างกายของคุณมีความสุข...
.

.

- นิ สั ย เ สี ย ข อ ง “ โด ค ย อ ง ซู ” –

.

เสียงนาฬิกาดิจิตอลของผมดังขึ้นอีกครั้ง ตี4เข้าไปแล้ว เราควรจะเสร็จก่อนเช้า ผมคิดและเขาก็คิดเหมือนกัน หลังจากปลุกอารมณ์กันมามาก ตอนนี้คงเป็นเวลาที่ผมจะทำให้เขามีความสุขบ้าง เขาจัดการถอดบ๊อกเซอร์ซึ่งอาภรณ์ชิ้นเดียวบนร่างตัวเองออกโดยไม่รอช้าเมื่อเวลายังคงเดินไปเรื่อยๆและเวลาเช้ากำลังใกล้เข้ามา สองขาของผมถูกดันให้ชันขึ้นอีกครั้ง ฝ่ามือของเขาข้างที่ยังเต็มไปด้วยน้ำของผมกดขยี้ลงบริเวณช่องทางด้านหลัง เขากาลังใช้ประโยชน์จากมันโดยการทำให้มันลื่นเพื่อง่ายต่อการสอดใส่ ซึ่งนั่นก็ดี..

ผมหลับตาแน่นเมื่อปลายนิ้วของเขาเริ่มแตะวนตรงปากทางซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมันเริ่มเปิด ปลายนิ้วค่อยๆกดลึกเข้ามา นิ้วแรกถูกดันเข้ามาจนสุดก่อนจะดันเข้าออกไปเรื่อย พอช่องทางเริ่มชินกับการถูกรุกล้ำ นิ้วที่สองและสามก็ตามเข้ามา

“จ..เจ็บ...”
ผมร้องบอก มือข้างหนึ่งที่เคยใช้ปิดหน้าเพราะความอายเปลี่ยนมาจิกเข้าที่แขนของเขาที่คร่อมผมอยู่ด้านบนแทน เขาขมวดคิ้วนิดหน่อยกับความเจ็บที่แขน

“อย่าเกร็งซิ เดี๋ยวก็รู้สึกดี”
เขาปลอบผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางจูบเบาๆที่เข่าไล่ต่ำลงมาตามเรียวขาด้านใน อีกครั้งที่ผมเชื่อฟังเขาง่ายๆ แม้จะเจ็บแต่ผมก็พยายามจะไม่เกร็ง นิ้วทั้งสามค่อยๆขยับเข้าออกจากช้าๆเริ่มเร็วขึ้น ผมกัดปากแน่นกับความรู้สึกเจ็บจากการถูกรุกล้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันจริงอย่างที่เขาบอก ผมคิดว่าผมกาลังรู้สึกดี...

เขาถอนนิ้วทั้งหมดออกเปลี่ยนมาจับส่วนนั้นของตัวเองรูดขึ้นลงอยู่ครู่ พลิกร่างผมให้คว่ำลงให้อยู่ในท่าที่ง่ายต่อการสอดใส่ก่อนจะค่อยๆจ่อมันเข้ามาที่ช่องทางคับแคบที่ได้เตรียมกรุยทางไว้ก่อนแล้ว มือใหญ่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง นั่นทำให้ผมรู้สึกหวิวแปลกๆ

“อ้าาาาาาา!!”
ผมร้องลั่นเมื่อเขากดส่วนนั้นของตัวเองเข้ามาและขนาดมันเทียบกันไม่ได้เลยกับนิ้วเล็กๆทั้ง3 เขายังคงดันมันเข้ามาเรื่อยๆโดยไม่สนใจว่าผมจะกรีดร้องยังไงก่อนจะหยุดลงเมื่อผ่านเข้ามาได้เพียงครึ่งทาง

“คยองซู อย่าเกร็งฉันขยับไม่ได้”
เขากดเสียงต่าเมื่อส่วนนั้นถูกตอดรัดแรงขึ้นจนไม่สามารถขยับได้อีก

“ต..แต่ผมเจ็บ”
ผมกัดฟันตอบอย่างยากลาบากเพราะความรู้สึกคับแน่นในช่องท้องที่มาพร้อมกับความเจ็บจุกชนิดที่บอกไม่ถูก แผ่นหลังไหวน้อยๆตามแรงสะอื้น น้ำสีใสค่อยๆเอ่อปริ่มขอบตาก่อนจะหยดลงพื้นอย่างเงียบๆเมื่อความเจ็บมันพุ่งพล่านจนเก็บไว้ไม่อยู่

“ขอโทษ แต่อดทนหน่อยนะ เชื่อฉันซิเดียวมันจะดีขึ้นเอง”
ด้วยน้าเสียงอ่อนโยนที่บอกให้เชื่อ แค่นั้นผมก็เชื่อเขาอีก ถึงแม้จะเจ็บและผมก็ยังเผลอเกร็งรัดเขาแน่นแต่ผมก็พยายามเพื่อให้ทั้งผมและเขาผ่านมันไปได้โดยที่ไม่ต้องทรมานด้วยกันทั้งคู่

..ผมเชื่อ ว่าเซ็กส์ถ้าทำแล้วไม่มีความสุขคนมากมายคงไม่ทนเจ็บกับมันขนาดนี้.. ผมเองก็จะพยามอดทนเพื่อที่ทั้งเขาและผมจะได้พบกับความรู้สึกนั้นเหมือนกัน...ผมไม่อยากให้เขาผิดหวังที่ยอมเออออตามที่ผมขอ...

เสียงครางต่ำของร่างด้านบนดังขึ้นพร้อมๆกับผมเมื่อในที่สุดเขาก็ดันมันเข้ามาได้จนสุด ปล่อยคาไว้อย่างนั้นครู่หนึ่ง ร้องบอกผมอีกครั้งเมื่อพร้อมจะขยับ ผมพยักหน้ารับพลางเม้มปากแน่นรอรับความเจ็บที่กำลังจะเริ่มขึ้น สองมือของเขาบีบกดสะโพกผมไว้แน่นในจังหวะที่ขยับเข้าและออก ไม่มีอะไรที่ผมจะทำได้นอกจากร้องครางเพื่อระบายความเจ็บที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกดี รู้สึกเสียวซ่านเมื่อเขายังคงขยับเข้าออกเสียดสีอยู่เรื่อยๆ จังหวะการขยับเริ่มเร็วขึ้นเมื่อเขาเองก็คงรู้ว่าผมไม่ได้รู้สึกเจ็บอีกต่อไปแล้ว...

“อ้าาาา...พี่ครับ..พี่ครับ..”
ผมร้องเรียกเขาเมื่อสติเริ่มหลุดลอย ผมไม่รู้ว่าผมสมควรจะเรียกเขามั้ยแต่ก็ช่างเถอะ ผมเรียกไปแล้ว

“เรียกชื่อซิ ฉัน ไม่ได้ชื่อพี่ซักหน่อย”
เขาตอบกลับเสียงขาดห้วงเมื่อร่างกายส่วนล่างยังคงกดกระแทกเข้าออกไม่ยั้ง

“ช..ชานยอล..อ้ะ..อ้าาา....”
ผมร้องเรียกชื่อเขาตามที่เขาบอกพลางแอ่นสะโพกกระแทกสวนจังหวะเขากลับไปบ้าง

“อาาา..อีกซิ อย่าหยุด คยองซู อีกซิ”

“ช..ชานยอล...ชานยอล!!...ชานยอล!!!”

ยิ่งผมเรียกก็ดูเหมือนว่าเขาจะยิ่งกระแทกแรงขึ้น และถี่ขึ้น ผมร้องครางไม่เป็นภาษาเมื่อความรู้สึกร้อนมาอัดแน่นอยู่ตรงส่วนนั้นอีกครั้ง...ผมกาลังจะถึง...เขาเองก็เช่นกัน แม้จะครู่เดียวแต่ผมก็รู้สึกได้ว่าส่วนนั้นของเขาที่กำลังขยับอยู่ในตัวผม กำลังขยายตัว

“จะออกแล้ว”
ร้องบอกเมื่อความต้องการกำลังพุ่งขึ้นจนสุด ผมยังคงร้องเรียกชื่อเขาเสียงดังระงมจนบางทีผมก็คิดไปว่าจงอินอาจจะได้ยินก็ได้ แต่ก็ช่างเถอะ ผมตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะคิดเรื่องอื่น ในหัวผมมีแต่เขา...ปาร์ค ชานยอล...

เขายังกดกระแทกเข้ามาอยู่อีกซักพักก่อนจะปลดปล่อยออกมาในตัวผมพร้อมกับกระแทกครั้งสุดท้ายที่แรงและลึกที่สุด ผมกรีดร้องเมื่อตัวเองปลดปล่อยออกไปอีกครั้งและรับรู้ได้ถึงของเหลวร้อนๆของเขาที่ไหลเข้าสู่ร่างกายแทน

ตัวเขากระตุกเกร็งจนผมรู้สึกได้เมื่อเขายังคงปล่อยมันคาอยู่ในตัว สองแขนของผมที่รับน้ำหนักตัวและแรงอัดกระแทกของเขามาตลอดทรุดลงในทันทีหลังเสร็จกิจ เขาถอนกายออกเมื่อเห็นว่าผมไม่มีกระทั่งแรงที่จะพยุงตัวได้อีกแล้ว ผมหอบถี่และสาบานได้ว่ามันเหนื่อยยิ่งกว่าตอนซ้อมเต้นหรือตอนร้องเพลงเสียอีก

มือใหญ่ของเขาพลิกร่างผมที่ทิ้งตัวนอนไปกับพื้นไม่เป็นท่าให้กลับมานอนหงายอีกครั้ง เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมชื้นเหงื่อให้พ้นจากใบหน้า ผมยังคงหลับตาและหอบหายใจหนักๆต่อไปอีกซักพักโดยมีเขานั่งอยู่ข้างๆ

Reply · Report Post